ชาเจียวกู่หลาน 5/5 (5)



โหวตบทความนี้หน่อยจ้า

ชาเจียวกู่หลาน

เจียวกู่หลาน มีคุณสมบัติทางสมุนไพร ว่าช่วยป้องกันโรคได้หลากหลายชนิด สารซาโปนิน ในสมุนไพรเจียวกู้หลานมีความสำคัญผู้ป่วยโรคตับอักเสบและโรคเบาหวาน และ มีคุณ สมบัติ ที่คล้ายโสม สมุนไพรมีสาร Gynpenosides มากกว่าสมุนไพรโสม 3-4 เท่า ซึ่งสารเหล่านี้ ไม่พบ ในชา ชาอู่หลง และ ชาใบหม่อนให้คุณค่า สมุนไพรบำรุง ร่างกาย ไม่มีสารตกค้าง เจียวกู้หลาน สมุนไพร สายพันธุ์สมุนไพรที่ดีที่สุด คุณค่า สมุนไพร มากที่สุดเพื่อคุณ

ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเจียวกู้หลาน ผลิตจากสมุนไพรเจียวกู้หลานป่า ไม่ใช้สารเคมีปุ๋ยหรือยาฆ่า แมลง และ จากงานวิจัย ทั้งของประเทศไทย และต่างประเทศ มีค่าความเป็น พิษต่ำมาก จนถือว่าไม่เป็นพิษต่อร่างกาย จึงเป็นสมุนไพร ทางเลือกอีกทางเลือกหนึ่งที่ คุ้มค่าใน การบริโภค

สมุนไพร จากรายงานการวิจัยสมุนไพรเจียวกู้หลานให้คุณค่าสมุนไพรไทย 2 ประเภท คือสมุนไพร บำรุง และป้องกัน บำรุงร่างกายเพิ่ม ความแข็งแกร่งให้เซลล์ช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพ การสั่งการ ของสมอง ลดความดันโลหิต ลดคลอ เลสเตอ รอล ฟอสฟอไลปิดและ กรดไขมันอิสระ ลดน้ำตาล

ใน เลือด ชะลอความชรา ยืดอายุเซลล์ รักษาโรคปวดหัวข้าง เดียวไม เกร็น สร้างเซลล์ สมอง ทำให้ความจำดี กระตุ้นการสร้าง เซลล์เม็ดเลือขาว ช่วยในผู้ที่มีอาการ ภูมิแพ้ แพ้อากาศ ลดน้ำตาลในกระแสโลหิตป้องกัน มะเร็งต้านอนุมูลอิสระและอื่น ๆ ไม่มีค่าของ ความเป็นพิษต่อ ผู้บริโภค สมุนไพรปลอดภัย ไม่ส่งผลข้างเคียง

ชาสมุนไพรเบญจขันต์ (เจียวกู่หลาน) เกรด A

คัดเลือกเฉพาะยอดอ่อน ไม่มีเถา ไม่มีใบแก่ รสชาตินุ่มนวล ไม่ขมไม่ฝาด ลื่นคอ คัดพิเศษ มีความประณีตในการทำ ใบชาชนิดนี้ที่ต่างประเทศเอาไปสกัดทำยา ปริมาณการใส่ใบชาแห้งใช้แค่เพียงครึ่งช้อนโต๊ะเท่านั้นเป็นพืชต้นกำเนิดที่ประเทศจีนชอบอากาศหนาวเย็นและเป็นพืชออแกนิกตั้งแต่เกิด (ไม่สามารถใช้สารเคมีในการดูแลรักษา) อากาศดี – น้ำดี ลักษณะเป็นไม้เลื้อยเถาวัลย์คล้ายผักตำลึง ขนาดลำต้นสีเขียวทรงกลม แตกกิ่งก้านทอดเลื้อยตามหน้าดินสามารถเลื้อยไปได้ไกล 2 – 3 เมตร โดยจะมีรากหรือมือเกาะเป็นเส้นแตกออก

ตามโคนก้านใบทุกก้าน และจะฝังดินเป็นรากยึด แตกเป็นลำต้นแผ่กระจายไปเรื่อย ๆใบประกอบ ออกเรียงสลับ มีใบย่อย 5 ใบ ขนาดไม่เท่ากัน เป็นรูปรี ปลายใบแหลม ขอบใบจักเป็นฟันเลื่อย ใบเป็นสีเขียวเข้มหนาแน่นเป็นแพน่าชมยิ่ง ใบแก่บนใบจะมีเมล็ดเล็ก ๆ สีดำเกาะอยู่บนใบจำนวนมาก มองตาเปล่าไม่เห็นเมื่ออบแห้งแล้ว นำมาชงน้ำดื่มและพอน้ำเย็นลง ก้นแก้วจะพบเศษเล็ก ๆ คล้ายทรายนอนอยู่ก้นแก้ว สารเม็ดเล็ก ๆ คล้ายเมล็ดแมงลักเหล่านี้จะสามารถชะล้างเชลล์ในเนื้อเยื่อภายในหลอดอาหาร กระเพาะอาหารได้ดี ชะล้างเนื้อเยื่อ เมื่อเซลล์เก่าถูกชะล้าง เชลล์ใหม่ก็จะเปิดบอลลูนขึ้นมาแทนที่ให้มีประสิทธิภาพ เป็นภูมิต้านทานโรค ส่วนดอกเป็นสีแดง ขนาดเล็กมาก ออกเป็นเดี่ยว ๆ หรือเป็นช่อกระจุก 2 – 3 ดอก ที่ปลายยอด

ลักษณะดอกมีกลีบดอก 4 ดอก ดอกบานพร้อม ๆ กันทุกยอด จะดูสวยงามมาก ดอกจะออกเมื่อต้นเจริญเติบโตเต็มที่

เจียวกู่หลาน

สมเด็จพระเทพ เสด็จประภาสจีนและทรงเล็งเห็นประโยชน์ของเจียวกู่หลานเป็นสมุนไพรที่รักษาโรคได้หลายชนิด มีสรรพคุณใกล้เคียงกับใบชา ข้อดีคือไม่มี คาเฟอีน รสชาติก็ดื่มง่ายเหมือนโสม และทรงเล็งเห็นว่าภูมิศาสตร์ประเทศไทยก็เหมาะที่จะปลูกพืชชนิดนี้ จึงได้ส่งเสริมให้มีการปลูกอย่างแพร่หลาย และขนานนามสมุนไพรชนิดนี้ให้ใหม่เพื่อบรรจุเข้าสมุนไพรไทย ชื่อ “เบญจขันต์ หรือ ปัญจขันต์” คนจีนเรียกเซียนเฉ้า (ภาษาจีนแต้จิ๋ว) ฝรั่งเรียก ”Gynostemma pentaphyllum”

ปลอดสารเคมี ตั้งแต่แรกเกิด การเพาะชำต้องรดน้ำในห้วยที่ไหลมาจากยอดเขา เพราะน้ำในห้วยมีสารอาหารและแร่ธาตุมากมายเหมาะแก่การปลูกเจียวกู่หลาน ใช้น้ำประปารดไม่ได้เพราะมีสารคลอรีน ต้นไม้จะตาย หรือไม่ผลิตใบ มีแต่ลำต้นหรือถ้าออกใบก็จะห่างมากเป็นคืบ ไม่ชอบแดดร้อนจัด ต้องปลูกใต้หลังคาสังเคราะห์แสง ใส่ปุ๋ยเคมีหรือฉีดยาฆ่าแมลงก็ไม่ได้ ต้นอาจตายหรือไม่ออกใบ เหลือแต่ก้านใช้ความละเอียดในการจัดการ ถึงจะได้ผลผลิตนำออกสู่ตลาด จากการวิจัยของศูนย์วิจัยทั่วโลก ยกระดับใบของเบญจขันต์ เจียวกู่หลานเป็นพืชมหัศจรรย์ สามารถรักษาโรคได้หลายชนิด ลดระดับความดันของหลอดเลือด รักษาโรคได้หลายชนิดและเป็นตัวปรับสมดุลย์ของเม็ดเลือดขาวและเม็ดเลือดแดง เบญจขันต์ เจียวกู่หลาน นำมาสกัดทำยาหลายชนิดและหลายขนาดภายใต้ภาษาอังกฤษ ( GYNOSTEMMA PENTAPHTLLUM ) เบญจขันต์ เจียวกูหลาน ได้บรรจุเข้าเป็นสมุนไพรไทยแล้ว ภายใต้

ชื่อ เบญจขันต์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เซียนเฉ้า วิธีเก็บเบญจขันต์ เมื่อเด็ดเถาวัลย์มาแล้วจะเอาผ้าขาวห่อเหมือนลูกประคบ ขนาดใหญ่ และนำมานวดเบา ๆ ให้ใบเสียดสีกันแต่ไม่ให้ช้ำมาก ให้ได้ทั่วกัน และแกะผ้าขาวออก ผึ่งคลายความร้อนจากการนวด แล้วนำมาอบแห้ง บรรจุซองตะกั่วเมลามีนปิดซองสนิทกันความชื้น ไม่ให้ลมนอกเข้าและไม่ให้ลมในออก กลิ่นจึงหอม ขนาดบรรจุมี 2 ขนาด คือ 100 กรัมและ 200 กรัม มาตรฐานใบชาที่บรรจุอยู่ในซองตะกั่วเมลามีนเก็บรักษาได้อายุ 2 ปีเมื่อเปิดซองใบชาควรพับ 2 – 3 ชั้น และเอากิ๊ปหนีบ หรือหนังสติ๊กรัดรอบบนล่างที่พับเข้าหากันก้นถุง และอยู่ในที่ไม่มีแดด อย่านำเข้าตู้เย็น ถ้าเข้าตู้เย็น เมื่อนำมาชงดื่มเสร็จแล้วก็ต้องอย่าลืมเก็บกลับเข้าตู้เย็น มิฉะนั้นใบชาอาจขึ้นราได้ ถ้าดื่มทุกวันก็ไม่จำเป็นต้องเก็บในตู้เย็น

ต้นเจียวกู่หลาน

สมุนไพรเจียวกู่หลาน ได้รับการทดสอบฤทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับการลดน้ำตาลในเลือด ซึ่งโยงถึงการรักษาโรคเบาหวานมากมาย จากการสืบค้นข้อมูลย้อนหลังจนถึงปัจจุบัน พบข้อมูลผลการวิจัยตั้งแต่การคัดกรองฤทธิ์ในหลอดทดลองกับเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับลดระดับน้ำตาลในเลือด การทดสอบฤทธิ์ในสัตว์ทดลอง และ งานวิจัยทางคลินิกในมนุษย์ด้วย โดยเจี๋ยวกู่หลานมีสารสำคัญ Gypenosides ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ แอลฟา-อะไมเลส และ ออกฤทธิ์ยับยั้ง โปรตีนไทโรซีนฟอสฟาเทส 1 บี โดย เอนไซม์แอลฟา-อะไมเลส เป็นเอนไซม์ที่ท้าหน้าที่ย่อยแป้งและไกลโคเจน ไปเป็นกลูโคส ซึ่งการยับยั้งเอนไซม์ชนิดนี จะท้าให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมกลูโคสเข้าสู่ร่างกายได้ จึงเป็น
กลไกหนึ่งในการรักษาความผิดปกติของระดับน้ำตาลในเลือด และโรคอ้วน ส้าหรับโปรตีนไทโรซีนฟอสฟาเทส 1 บี
นั้น เป็นโปรตีนที่ยับยั้งการท้างานของอินซูลิน ดังนั้นการยับยั้งโปรตีนชนิดนี้ จึงเป็นเป้าหมายหนึ่งส้าหรับการรักษา
โรคเบาหวาน โดยเฉพาะโรคเบาหวานชนิดที่ 2

สารที่พบใหม่ในเจียวกู่หลาน 2 ชนิด ได้แก่ Damulin A และ Damulin B สามารถเพิ่มปฏิกิริยาเบต้าออกซิเดชันและเพิ่มการนำกลูโคสเข้าสู่เซลล์กล้ามเนื้อได้อีกด้วย

ชาเจียวกู่หลาน

ชาเจียวกู่หลาน

ชาเจียวกู่หลาน

วิธีชงชาเจียวกู่หลานดื่ม

1.หยิบใบชา 1 ช้อนโต๊ะ ใส่ภาชนะชงชา รินน้ำร้อน 90 – 100 องศา

2.แช่ใบชาในน้ำ ประมาน 1 นาที อย่าแช่ชาสมุนไพรไว้นานเพราะจะทำให้สีชาเข้ม จะเข้าไปทำลายน้ำตาลในเม็ดเลือดแรงเกินไป ถ้าสีชาเข้มให้เอาน้ำร้อนรินใส่จน สีออกเหลืองอ่อน ดื่มอุ่น ๆ จะดีมาก หรือถ้าดื่มไม่หมดทิ้งไว้ให้เย็นแล้วเทใส่ขวด แช่ตู้เย็น ดื่มเป็นน้ำเย็นก็สดชื่นดี

3.สำหรับคนที่เป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิต ควรดื่มแทนน้ำเป็นประจำทุกวันเพื่อลดอาการความดันโลหิตและโรคเบาหวาน และคนปกติที่ไม่เป็นโรคดื่มเป็นประจำจะมีสุขภาพที่ดี เป็นภูมิคุ้มกันโรค ข้อสำคัญอย่าชงชาเข้มเพราะดื่มทุกวัน

* หมายเหตุ ไม่ควรใช้น้ำประปาชงชาเพราะในน้ำประปามีสาร คลอรีน อยู่มาก เมื่อนำมาต้มชงชาจะทำให้รสชาและกลิ่นชาเสีย

* คำเตือน ผู้ที่ห้ามดื่มชาทุกชนิด คือ หญิงตั้งครรภ์,มารดาที่ให้นมบุตร, ผู้ที่ฟอกไต และคนผอมแห้ง ความดันต่ำ

สรรพคุณชาเจียวกู่หลาน

  • บำรุงร่างกาย ระงับประสาท
  • ช่วยให้นอนหลับ
  • ลดความตื่นเต้น
  • ต้านอนุมูลอิสระ
  • ต้านการอับเสบ
  • แก้ไอ ขับเสมหะ
  • ลดอาการต้อกระจก
  • ลดความดันในโลหิต
  • ลดคลอเรสเตอรอล
  • ลดไขมันอิสระ
  • ลดน้ำตาลในเลือด
  • รักษาแผลในกระเพาะอาหาร
  • ยับยั้งการเกาะตัวของเกร็ดเลือด
  • ชะลอความชรา
  • ลดการเสื่อมสภาพของสมอง
  • ยืดอายุเซลล์
  • เพิ่มจำนวนอสุจิ
  • รักษาโรคปวดหัวข้างเดียว
  • ช่วยควบคุมน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร